หลังจากที่เราได้สมัครเป็นฟรีแลนเซอร์กับ Upwork เพื่อจะหาเงินออนไลน์กันไปแล้ว ในบทความนี้มัฟฟินจะพาทุกคนมาสร้างโปรไฟล์กันค่ะ
ทำไมต้องสร้างโปรไฟล์ ?
- โปรไฟล์ที่ดี สามารถดึงดูดผู้ว่าจ้าง (Client) ได้
- เพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถดูประกอบการตัดสินใจก่อนจ้างเรา
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ
- การกรอกข้อมูลโปรไฟล์ให้ครบถ้วนเป็นส่วนที่ส่งผลต่อคะแนนทักษะที่เพิ่มขึ้น หรือ Rising Talent ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการรับงานของเราอีกด้วย
เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าโปรไฟล์มีความสำคัญมาก บทความนี้มัฟฟินจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ เพื่อนๆสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับความสามารถหรือความถนัดของตัวเองได้ค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย
ใครที่ทำต่อจากบทความที่แล้วก็คลิก "Continue To Create Profile" เลยค่ะ แต่ถ้าใครเพิ่ง log in เข้ามาใหม่ ก็จะเข้ามาที่หน้า Create Your Profile อัตโนมัติตามภาพถัดไปค่ะ
1. สมมติว่าคุณเป็นโปรแกรมเมอร์ คุณอาจจะเลือกทำงานในกลุ่ม Web,Mobile & Software Development งานที่สนใจก็จะเป็นพวก Web Development, Mobile Development, Software Development ความถนัดในการเขียนโปรแกรมก็จะเป็นภาษาที่คุณสามารถเขียนได้ เช่น PHP, VB, HTML หรืออื่นๆ
ในส่วนนี้เป็นข้อมูลที่เราเคยกรอกเมื่อตอนสมัครซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยคลิกที่รูปดินสอสีเขียวค่ะ แต่ถ้าใครกรอกข้อมูลจนพอใจแล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไป (ดูภาพด้านล่างนะคะ)
2. ต่อไปเขาจะให้เรา Upload รูป Profile ของเราค่ะ ควรจะเป็นรูปที่เห็นหน้าเราชัดเจนที่ดูดี ดูเป็นมิตรและน่าเชื่อถือค่ะ อาจไม่ต้องถึงกับเป็นรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 นิ้วติดบัตร แต่ขอให้ดูเป็นมืออาชีพหน่อยเท่านั้นเองค่ะ
3. จากนั้นก็เขียนคำอธิบายลักษณะงานที่คุณทำสั้นๆ ดังภาพด้านล่างในกรอบสีแดง ซึ่งทาง Upwork ก็ได้ไกด์ตัวอย่างไว้ให้แล้ว ในที่นี้เป็น Web & Desktop Application Developer หรือถ้าคุณจะทำงานด้านการแปลภาษาไทย-จีน ก็อาจจะใส่ว่า Thai-Chinese Translator ก็ได้
ส่วนในกรอบสีเหลืองนั้นเป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญทีเดียว เพราะเป็นส่วนที่เราจะได้โฆษณาสรรพคุณของเราว่าเก่งอะไร มีความสามารถเทพแค่ไหน ประสบการณ์แน่นปึ้กเท่าไหร่ เคยทำโปรเจคอะไรมาแล้วบ้าง คุยกับนายจ้างรู้เรื่องไหม ที่สำคัญก็คือคนที่จะจ้างเรา หรือที่เรียกว่า Client นั้นมักจะมาอ่านข้อมูลสรรพคุณของเราตรงนี้ประกอบการตัดสินใจจ้างเรานั่นเอง
ตรงกรอบนี้ Upwork ก็มีตัวอย่างการเขียนให้เราแล้ว เราก็เพียงแค่เอามาปรับให้เหมาะสมกับตัวเราเองค่ะ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ^^
ต่อมาเป็นส่วนของการศึกษา, ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถภาษาอังกฤษค่ะ
4. ในส่วนของการศึกษานั้น เราสามารถเพิ่มประวัติการศึกษาได้โดยคลิกเครื่องหมาย + สีเขียวๆนั้นได้เลยค่ะ จากนั้นก็กรอกประวัติการศึกษาได้เลย เอาแค่ในระดับปริญญาก็พอนะคะ ไม่ต้องไล่มาตั้งแต่ประถมค่ะ ใครมีปริญญาตรี โท เอก ก็กรอกทีละระดับนะคะ เช่น กรอกระดับปริญญาตรีเสร็จก็คลิกที่ Save And Add More แล้วค่อยกรอกในระดับปริญญาโทค่ะ โดยต้องระบุมหาวิทยาลัย, ปีที่เริ่มเรียน - ปีที่จบ, ระดับการศึกษา
ส่วนที่วงเล็บว่า optional นั้น ไม่จำเป็นต้องกรอกก็ได้ค่ะ เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กด Save เลยค่ะ
5. ในส่วนของประวัติการทำงาน เราก็สามารถเพิ่มได้โดยกดเครื่องหมาย + สีเขียว เราเคยทำงานที่บริษัทอะไร อยู่ที่ไหน ตำแหน่งอะไร เริ่มทำตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ เราก็กรอกลงไปในฟอร์มนี้ได้เลย
ปล. ในภาพเป็นเพียงตัวอย่างนะคะ มัฟฟินไม่ได้ทำงานที่บริษัทนี้ค่ะ
6. เลือกว่าระดับภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับไหน
- Basic = สื่อสารผ่านการเขียนได้
- Conversational = พูดคุยได้รู้เรื่อง
- Fluent = คล่องปรื๋อ
- Native or Bilingual = เจ้าของภาษา
7. ตั้งค่าตัวของเรา เป็นหน่วยดอลล่าร์ต่อชั่วโมง ตรงนี้อาจจะต้องไปหาข้อมูลว่าคนอื่นๆในสายงานของคุณบน Upwork ตั้งค่าตัวประมาณเท่าไหร่ และไม่ว่าเราจะเรียกค่าตัวเท่าไหร่เราก็จะโดนหักค่า Service Fee ไปถึง 20% เลยที่เดียว (ฮือ อยากร้องไห้ T_T)
8. เลือกว่าเราสามารถทำงานกับ Upwork ได้สัปดาห์ละกี่ชั่วโมง ถ้าคิดคร่าวๆว่าทำงาน 5 วัน วันละ 6 ชั่วโมง ก็จะเป็น 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งก็ถือว่าเยอะแล้วนะคะสำหรับคนที่มีงานประจำ ใครขยันมาก ขยันน้อยก็ลองคำนวณและเลือกกันดูค่ะ หรือใครที่ว่างพร้อมรับงานตลอดเวลาก็เลือกเป็น As Needed ก็ได้
9. สุดท้ายให้กรอกที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ค่ะ เบอร์โทร์ให้ใส่เป็น 66 (รหัสประเทศไทย) ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์เราโดยตัดศูนย์ข้างหน้าออกค่ะ จากนั้นคลิกปุ่ม Review Profile & Submit ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตอนต่อไปมัฟฟินจะพาไปดูวิธีการหางานและรับงานออนไลน์บน Upwork ค่ะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ ส่วนใครที่ต้องการดูคลิปขั้นตอนการสร้างโปรไฟล์ upwork เบื้องต้นผ่านทาง youtube ก็สามารถดูได้ข้างล้างนี้เลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น